Lynla Suphattanakul

ด.ญ.ลินลา สุพัฒนกุล

Don’t take the guilt trip: จดหมายถึงหนูฉบับที่ 3

ลินลาอยู่โรงพยาบาลมา 125 วันแล้ว พาดผ่านเวลาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมแล้วในวันนี้ รวมเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ลินลาเติบโตไปทุกวัน สร้างความชื่นใจให้กับพวกเราทุกคนไปทุกวัน และในวันนี้เป็นอีกวันสำคัญที่ลินลาน้ำหนัก 8 ปอนด์ (3,615 กรัม) แล้วจ้ะ และหมอจะลองเอาสายออกซิเจนออกดูทั้งวัน และถ้าลินลาอยู่ได้ดีรวม 5 วันพวกเราทุกคนก็จะได้พาลินลากลับบ้านกันสักที แต่ถ้าลินลายังต้องใช้ออกซิเจนอยู่ เราก็ตัดสินใจกันว่าจะพาลินลากลับมาพร้อมกับออกซิเจนขนาดน้อยๆที่ใช้อยู่ตอนนี้จ้ะ เพราะเราคิดถึงลินลาจับใจแล้วจ้ะ

 

ใน 125 วันที่ผ่านมา แม่ย้อนอดีตไปคิด ไปรู้สึกผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆ แม้จะมีบางวันที่ยังแว๊บๆบ้างว่า ตอนนั้นเราทำอะไรผิดไป ถ้าเราไม่ทำอะไร ถ้าเราทำอะไร เหตุการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร แม้หมอที่แม่ไปหาจะบอกว่าปัญหาที่ทำให้แม่คลอดลินลาก่อนกำหนดจากภาวะรกลอกตัว มันเกิดขึ้นเองไม่ได้มีสาเหตุชัดเจนจากการกระทำใดๆทั้งสิ้น หมอบอกว่าแม่บางคนถึงขั้นไปวิ่งมาราธอน ลูกก็ยังอยู่ดี แต่บางครั้งเราก็ยังอดรู้สึกผิดไม่ได้อยู่ดี

 

สิ่งหนึ่งที่แม่เชื่อว่าทำให้แม่มีกำลังใจดูแลลินลามาได้อย่างเข้มแข็งตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาก็คือ การจดจ่ออยู่กับปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆและให้อภับตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่พาตัวเองเดินทางกลับไปในเส้นทางที่ทำให้รู้สึกผิด (the guilt trip) เพราะเอาเข้าจริงแล้วเราก็ไม่ตั้งใจให้เรื่องที่ทำให้ลินลาลำบากต้องเกิดขึ้น และในความเป็นจริงแล้วแค่ได้มาเจอลินลาแม่ก็มีจิตใจและกิจกรรมที่จดจ่อกับลินลาตลอดเวลาจนรู้สึกว่า 125 วันที่ผ่านไปนี่เร็วแบบติดปีกบินเลยจ้ะ แม่อธิษฐานมาตลอดว่าขอให้การเกิดมาของลินลาเป็นสิ่งที่ดีและทำให้เราได้ทำกุศลร่วมกัน ในวันนี้แม่เชื่อมากขึ้นเรื่อยๆว่าลินลากำลังได้ทำกุศลนั้นอยู่ด้วยการเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน

 

และจดหมายฉบับที่ 3 ในวันนี้ก็คือความตั้งใจเดิมของแม่ในการดูแลลินลาตอนที่แม่ท้อง แม่เชียนไปประกวดโครงการ Mombassador ร่วมกับจดหมายฉบับที่ 1 และ 2 ที่เคยเขียนไปแล้ว วันนี้ได้มาอ่านที่ตัวเองเขียนเอาไว้แม่ก็เลยตั้งใจสัญญากับลินลาว่าแม่จะไม่ take guilt trip แล้วจ้ะ สู้เอาเวลามาคิดว่าจะเล่นอะไรกับลินลาในแต่ละวันดีกว่าตั้งเยอะเนอะ

นี่คือจดหมายที่แม่เตยเขียนเอาไว้ตอนปลายกันยายนปี 2555 จ้ะ

 

จดหมายถึงหนูฉบับที่ 3: วิธีการเตรียมพร้อมกายและใจในช่วงตั้งครรภ์ ดูแลทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ”

แม่พอรู้มาบ้างว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หรือที่เรียกในทางพุทธว่าอายตนะทั้ง 6 นี้ ล้วนเป็นอนัตตา คือ ทุกอย่างไม่มีตัวตนที่แท้จริงหากแต่เป็นเพียงการปรุงแต่งกิเลสเพื่อให้เกิดมีอยู่ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น แต่การมาของหนูก็ทำให้แม่ตั้งใจดูแล ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจมากขึ้น แม้จะรู้ว่าเป็นกิเลสที่เพิ่มขึ้น มีการปรุงแต่งมากขึ้น แต่ก็เป็นกิเลสที่เกิดจากการตั้งใจให้และหวังว่าเราสองคนแม่ลูกจะได้ร่วมกันสร้างกุศลผ่านความรักความผูกพันที่เรามีต่อกันต่อๆไปในวันข้างหน้า

การเตรียมพร้อมในช่วงตั้งครรภ์

ผ่านตา: จริงๆแล้วแม่เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่บางครั้งความยุ่งในชีวิตก็ทำให้แม่หงุดหงิดไปบ้าง แต่ตั้งแต่มีหนูมาอยู่กับแม่ แม่พยายามปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสิ่งที่เข้ามากระทบตา ให้หยุดอยู่แค่ที่ตา ไม่ผ่านเลยไปกระทบใจต่อ อีกอย่างคือแม่หลีกเลี่ยงการดูภาพยนตร์ที่รุนแรง หรือโป๊เปลือย โดยเด็ดขาดในช่วงนี้จ้ะ

ผ่านหู: เราคงเลือกฟังแต่สิ่งที่ดีไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะให้ข้อมูลไม่ดีที่ได้ยินมาหยุดอยู่แค่ที่หูได้เช่นเดียวกับตาจ้ะ และเรายังสามารถเลือกที่จะอยู่กับกลุ่มคนน่ารักๆที่มักจะพูดถึงสิ่งที่สร้างสรรค์ จรรโลงใจมากกว่าจะบ่น นินทาหรือเสียดสีคนอื่นได้อีกด้วย นอกจากนี้แม่ได้ยินมาว่าถ้าให้ลูกฟังเพลงคลาสสิคจะทำให้ลูกฉลาดขึ้น แม่ก็ลองดูแต่ปรากฎว่าหลับไปตั้งแต่ยังไม่จบเพลงแรกเลย ก็เลยเกรงว่าหนูอาจจะไม่ได้ยิน ตอนหลังก็เลยเปลี่ยนเป็นแนวเมดเล่ย์ คือฟังมันทุกแนว ตั้งแต่ อินดี้ ป๊อป ร็อก คลาสสิค สุนทราภรณ์ (ของตากับยาย) มิวสิคัล หมอลำ ลูกทุ่ง (ในรถแท็กซี่) จนถึงเพลงแต่งเอง แม่สังเกตว่าหนูชอบเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานและถ้าได้ฟังเพลงเดิมที่เคยฟังมาก่อนก็ (ดูเหมือน) จะดิ้นแรงขึ้นด้วย สงสัยจะเริ่มร้องและเต้นตามอยู่ในถุงน้ำคร่ำแน่ๆเลย ส่วนพ่อรับหน้าที่เป็นแผนกนิทานคอยหานิทานมาเล่าให้หนูฟังวันละเรื่องจ้ะ โดยค้นจากในอินเตอร์เน็ต (ตามเคย) นานวันเข้าพ่อก็เริ่มจะหมดมุข ช่วงหลังพ่อก็เลยหันมาเขียนนิทานเอง มีตัวละครขาประจำของพ่อเองเลย ซึ่ง (ดูเหมือน) หนูจะชอบมากจ้ะ นิทานของพ่อมีข้อคิดดีๆเยอะเลย แม่เองก็ชอบฟังด้วย แม่เลยวางแผนว่าจะคลอดหนังสือรวมเล่มนิทานของพ่อพร้อมๆกับคลอดหนูปีหน้าเลยจ้ะ

ผ่านจมูก: แม่เลือกที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ หายใจเอาอากาศสะอาดๆเข้าปอด และพยายามหลีกเลี่ยงคนสูบบุหรี่กับมลพิษต่างๆเท่าที่จะทำได้จ้ะ

ผ่านลิ้น: ปกติแม่ดื่มน้ำไม่ค่อยพอ เพราะลืมดื่ม และมักจะกินอาหารแบบรีบเร่ง ไม่ค่อยเลือกมาก แต่พอมีหนูแม่ดื่มน้ำอย่างน้อย 10 แก้วต่อวันจ้ะ การกินอาหารก็มีการวางแผนมากขึ้น คิดก่อนสั่งอาหารทุกครั้ง กินอย่างมีสติ กินปลาทุกชนิด ยกเว้นปลาดิบ กินวิตามินรวมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ กินธาตุเหล็ก และกินแคลเซียม ที่สำคัญแม่กินอาหารเช้าทุกวันเลยจ้ะ นอกจากนี้คุณยายกับคุณย่ายังช่วยเอาอาหารดีๆมาฝากเรา 2 คนอยู่เสมอเลย แม่เรียกอาหารเหล่านี้ว่า อาหารแห่งความรัก” จ้ะ คุณย่าเป็นคนทำอาหารพิเศษเพื่อบำรุงแม่ ส่วนคุณยายช่วยเอามาส่งให้ทำให้เราได้กินอาหารดีๆมีคุณภาพกันตลอดเลย

ผ่านกาย: แม่ยังคงทำงานที่แม่ต้องรับผิดชอบต่อไป แต่แม่รู้สึกได้เลยว่าความเร่งของแม่น้อยลงในทุกๆเรื่อง ทำงานเสร็จแบบค่อยเป็นค่อยไป พยายามไม่รับงานที่ทำให้ตัวเองต้องเครียดเกินไป เวลาเดินก็เดินช้าลงอย่างมาก และเดินช้าๆเป็นการออกกำลังกายทุกวัน และมีกิจกรรมเสริมเป็นช่วงๆเช่น อาทิตย์ก่อนเราไปว่ายน้ำกันด้วยนะ ถึงช่วงนี้แม่จะยังขับรถอยู่ก็ขับแบบระมัดระวังตามหลักการการขับรถสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่คุณปู่ส่งมาให้อ่านจ้ะ นอกจากนี้แม่ยังนอนเยอะจนใครๆก็ทักว่าหน้าตาสดใสเลยด้วย ที่สำคัญที่สุดคงเป็นการทาครีมที่ท้องเพื่อป้องกันท้องลายจ้ะ พอได้ดูแลตัวเองดีๆแล้วจิตใจก็พลอยสบายไปด้วย

ผ่านใจ: หลังจากผ่านแบบฝึกหัด ตา หู จมูก ลิ้น และกายมาแล้ว แม่ต้องยอมรับว่าใจแม่นิ่งขึ้นมากจ้ะ สิ่งสำคัญที่สุดคงเป็นเพราะแม่อุ่นใจและห่วงใยหนูที่อยู่กับแม่ตลอดเวลา แม่มีความเชื่อว่า ใจ” น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอายตนะทั้ง 6 นี้ เวลาแม่อยากกินอะไรที่พ่อไม่เห็นด้วย แม่ก็จะบอกว่า ความสบายใจ ของหญิงตั้งครรภ์สำคัญที่สุดนะจ๊ะ” ซึ่งพ่อก็ดูจะเห็นด้วย ยอมให้กินได้แต่โดยดี พ่อกับแม่ยังไปฝึกใจเพิ่มเติมในคอร์ส จิตประภัสสร” ของแม่ชีศันสนีย์ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนอีกด้วยจ้ะ

 

ตอนที่แม่ตั้งท้องประมาณ 19 สัปดาห์ เราได้รู้ว่าแน่ๆว่าหนูจะเป็นผู้หญิง พ่อกับแม่ก็เลยวางแผนจะตั้งชื่อหนูว่า ลินลา” จ้ะ ชื่อนี้มีที่มาจากนิยายที่แม่ชอบมากสมัยเด็กๆชื่อเรื่อง ลินลาน่ารัก” ของคุณ ว.วินิจฉัยกุล แม่ชอบแนวคิดของเด็กหญิงลินลาที่มีต่อสิ่งต่างๆในชีวิต ลินลาเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี เวลาลินลาเจอเรื่องหนักๆในชีวิต ลินลามักจะเล่น เกมดีใจ” โดยพยายามหาข้อที่จะดีใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรับมุมมองและก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในอารมณ์ พ่อกับแม่อยากให้หนู ก้าวไปข้างหน้าอย่างชิลล์ ชิลล์ ตามความหมายของชื่อ ลินลา” ซึ่งเป็นคำภาษาไทย และมีความอ่อนโยนผสมความเข้มแข็งอยู่เสมอจ้ะ

 

ด้วยรักและดีใจที่มีหนู แล้วเจอกันอีก 4 เดือนจ้ะ

แม่

20130301-142316.jpg

20130301-142339.jpg

20130301-142415.jpg

20130301-150332.jpg

20130301-150742.jpg

12 Comments »